DIARY Khowphun ::Day 12::

วันนี้ปุ้นรีบตื่นแต่เช้าเพราะว่าต้องออกไปรับเพื่อนที่มาจากจังหวัดจิบะ ข้าวเช้าวันนี้ปุ้นกินแค่น้ำชากับโดนัทหนึ่งชิ้น แถมตอนออกจากบ้านไม่ได้บอกโฮสด้วย เพราะโฮสนอนหลับอยู่ยนโซฟาปุ้นเลยไม่กล้าปลุก วันนี้ปุ้นออกมาขึ้นรถเมล์เที่ยวแรกตอนเวลา6โมง53นาที ไปถึงสถานีตอนเจ็ดโมงพอดี แล้วก็รีบวิ่งขึ้นรถไฟ เพราะเพื่อนมาถึงโอซาก้าตั้งแต่เจ็ดโมงแล้ว สถานที่ที่ปุ้นนัดเจอเพื่อนคือที่สถานีอุเมดะ ใช้เวลาประมาณ15นาทีก็มาถึงซะที ปุ้นจึงรีบติดต่อเพื่อน จนได้มาเจอกันตอนประมาณเจ็ดโมงครึ่ง เราตกลงกันว่าจะไปนัมบะกัน แล้วปุ้นก็ส่งไลน์ไปบอกมิ้นให้มาเจอกันที่นัมบะ แล้วปุ้นกับเพื่อนก็นั่งรถไฟจากอุเมดะไปถึงนัมบะตอนประมาณแปดโมงกว่าๆ ปุ้นกับเพื่อนตกลงกันไว้ล่วงหน้าแล้วว่าอยากจะร้องคาราโอเกะกัน เลยไปตามหาร้านคาราโอเกะที่เปิดตลอด24ชั่วโมงกัน เพราะเพิ่งจะแปดโมงกว่า ร้านคาราโอเกะส่วยในใหญ่จะเปิดเวลาสิบโมงกัน ในที่สุดก็หาจนเจอ ปุ้นกับเพื่อนเข้าไปร้องคาราโอเกะกันประมาณ1ชั่วโมง ตอนร้องก็สั่งเฟรนช์ฟรายด์กับไก่ทอดมากินด้วยเพราะตอนเช้าปุ้นกินแค่โดนัทชิ้นเดียว ส่วนเพื่อนยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลย กว่าจะร้องเพลงเสร็จก็ประมาณ9โมงครึ่ง มิ้นก็มาถึงนัมบะพอดี เลยไปนัดเจอกันแถวๆป้ายกูลิโกะ พอเจอมิ้นแล้วเราก็ถ่ายรูปเล่นกันสามคน ซักพักก็เดินเล่นในชินไซบาชิ เพื่อนนัดรุ่นพี่อีกคนนึงไว้ซึ่งรุ่นพี่คนนี้เรียนป.โทอยู่ที่มหาวิทยาลัยโอซาก้า โดยพี่เขาอาสาจะพาพวกเราเที่ยว พอเจอพี่แล้ว ที่แรกที่พี่พาไปคือเกมเซ็นเตอร์ซึ่งชั้นบนจะมีตู้ถ่ายรูปปุริคุระเต็มไปหมด มีบริการชุดคอสเพลย์ด้วยค่าเช่าชุดแค่ครั้งละ100เยนเท่านั้น เราสี่คนเลยตกลงจะคอสเพลย์กันในธีมดิสนีย์ ปุ้นแต่งเป็นมินนี่เมาส์ มิ้นแต่งเป็นมิกกี้เมาส์ เพื่อนอีกคนแต่งเป็นโอลาฟ ส่วนรุ่นพี่แต่งเป็นตัวเอเลี่ยนสามตา แล้วเราก็ไปเลือกตู้ที่จะถ่ายปุริคุระกัน พอถ่ายเสร็จก็มาแต่งรูปซึ่งปุ้นกับมิ้นขอบาย เสร็จจากถ่ายรูปแล้วก็ลงไปเล่นเกมที่ชั้นล่างแป๊บนึงแล้วก็ไปร้านชีสเค้กพลาโบ ไปนั่งกินน้ำกินขนมถ่ายรูปกันซักพัก รุ่นพี่ก็พาไปที่อาราชิคาเฟ่ ซึ่งปุ้นเป็นคนบอกเองว่าอยากไป พอเปิดประตูเข้าไปในคาเฟ่ปุ้นแทบอยากจะกรี๊ด คือทั้งร้านมีแต่รูปอาราชิ แถมช่วงนี้เพิ่งผ่านวันเกิดของนิโนะมิยะ หนึ่งในสมาชิกวงอาราชิมาไม่นานมากด้วย รอบๆผนังร้านจึงมีรูปนิโนะมิยะแผ่นใหญ่ๆแปะอยู่เต็มไปหมด ฟินมากๆเลยค่ะ แต่ว่าเขาให้นั่งได้แค่ชั่วโมงเดียว แถมค่าอาหารยังแอบแพงนิดหน่อยด้วย พอครบชั่วโมง รุ่นพี่ก็ขอตัวกลับไปเรียนที่มหาวิทยาลัยต่อ พวกเราสามคนเลยต้องเที่ยวกันเอง […]

DIARY Mint ::Day 11::

วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ต้องมาโรงเรียนแล้ว ใจหายเหมือนกัน วันนี้ดีใจมากได้เรียนกับ 柴田先生 ด้วย แอบชอบอาจารย์มาตั้งแต่วันแรกที่เจอแล้ว อาจารย์เป็นคนแลดูห้าวๆ พูดจาห้าว แต่เป็นคนใส่ใจกับนักเรียน และเอ็นดูนักเรียนมากๆ วันนี้เรียนภาษาญี่ปุ่นจากเพลง ซึ่งเป็นเพลงที่เพิ่งฟังมาจากร้านราเมงเมื่อวาน เพลงชื่อว่า 日々 เกี่ยวกับชีวิตของคุณตาคุณยาย หลังจากนั้นก็ไม่ได้เรียนอะไรกันต่อ เพราะว่าเพื่อนชวนอาจารย์คุย กลายเป็นชั่วโมง 会話 ไปเลย มีเพื่อนคนหนึ่งชื่อ Michael มาจากอินโดนีเซีย มาเป็น 留学生 1 ปี เป็นคนที่เรียนจริงจังมากๆ เค้าบอกว่ารู้สึกเสียเวลา อยากเรียนเรื่องยากๆ กว่านี้ แล้วก็มีโอกาสได้พูดคุยกันทั้งห้องเลย คนในห้องเพิ่งรู้ว่าวันนี้มาเรียนเป็นวันสุดท้าย คนที่ไม่เคยคุยกันก็เลยได้คุยกันซะงั้น มีเด็กอายุ 17 เอง แต่เก่งภาษาญี่ปุ่นมากๆ ชื่อ ブンちゃん มาจากไต้หวันกับเพื่อนไต้หวันอีกคนหนึ่งชวนไปกินซูชิ แล้วก็ไมเคิลด้วย แต่ว่าก็ไม่ได้กินด้วยกัน เพราะว่าหลังเลิกเรียนต้องเข้าพบไปพูดคุยและรับมอบเกียรติบัตรจากครูใหญ่ หลังจากรับมอบเกียรติบัตรเสร็จ ฝนตกแรงมากเลยนั่งรอในโรงเรียน พอฝนซา กำลังจะออกไป ครูใหญ่พาไปเลี้ยง お弁当 ที่ร้านตรงข้ามกับโรงเรียนซะงั้น เป็นร้านที่ไม่เคยเห็นเลยทั้งๆ ที่อยู่ตรงข้ามกับโรงเรียนแท้ๆ อร่อยมากๆ และก็นั่งคุยกับครูใหญ่ไป […]

DIARY Khowphun ::Day 11::

วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่จะไปโรงเรียนแล้ว กิจวัตรยามเช้าก็เหมือนกับทุกๆวัน พอมาถึงโรงเรียน ก็รู้สึกใจหายนึดหน่อย นี่วันสุดท้ายแล้วจริงๆหรอ เพิ่งมาได้ไม่กี่วันเอง วันนี้เลยคิดว่าจะตั้งใจเรียนให้เต็มที่เลย คาบเรียนวันสุดท้ายนี้อาจารย์ให้ฟังเพลง แล้วใก้ทุกคนร้องเพลงกัน เพลงที่อาจารย์ให้ฟังวันนี้ชื่อเพลงว่า Hibi ตอนฟังคือตกใจมาก เพราะร้านราเมงที่ไปกินตอนกลางวันเมื่อวานก็เปิดเพลงนี้ 555 พอหมดคาบเรียนปกติปุ้นกับมิ้นจะรีบเดินออกจากห้องทันที แต่วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้ว เราต้องรอพบครูใหญ่ของโรงเรียนเพื่อรับใบประกาศณียบัตรว่าจบคอร์สเรียนจากที่นี่แล้ว เวลาประมาณบ่ายโมงครึ่งเราเข้าไปที่ห้องของครูใหญ่เพื่อรับใบประกาศจากมือของครูใหญ่แล้วก็พูดคุยกับครูใหญ่อีกพักหนึ่ง ยังคุยไม่ไม่ทันเสร็จดีฝนก็ตกลงมาหนักมาก ทำให้ปุ้นกับมิ้นต้องรออยู่ในโรงเรียนจนกว่าฝนจะซา พอฝนเริ่มซาปุ้นกับมิ้นก็จะเดินออกไปหาข้าวกินกัน แต่เจอครูใหญ่พอดี ครูใหญ่เลยพาไปเลี้ยงข้าวที่ร้านขายสลัด ในร้านมีสลัด หมูทอด มักกะโรนี โอนิกิริ และอื่นๆอีกมากมาย ให้เลือกตักกัน ปุ้นมิ้นและครูใหญ่ก็นั่งกินข้าวด้วยกันอยู่ในร้านนั้น แล้วก็นั่งคุยกันอยู่พักใหญ่ จนประมาณบ่ายสองโมงครึ่ง เราจึงกล่าวขอบคุณครูใหญ่แล้วก็แยกย้ายกัน วันนี้ปุ้นกับมิ้นไปที่ Banpaku Kinen Kouen กันอีกรอบเนื่องจากเมื่อวานไปแล้วปิด ยังไงวันนี้ก็ต้องไม่พลาด เราไปถึงจุดหมายกันตอนเกือบๆจะสี่โมงเย็นแล้ว เราจึงมีเวลาเดินในสวนกันแค่หนึ่งชั่วโมงเท่านั้นเพราะสวนปิดตอนห้าโมง พอเข้าไปปุ๊บเราก็รีบเข้าไปถ่ายรูปกับ Taiyo no Tou ก่อนเลย แล้วก็เดินไปรอบสวน ซึ่งสวนมันกว้างมากๆ มีสวนดอกทานตะวัน และดอกไม้อื่นๆมากมาย เสียดายมากๆที่มีเวลาเดินแค่ชั่วโมงเดี๋ยว เพราะถ้ามีเวลามากกว่านี้เราอาจจะได้เข้าไปที่พิพิธภัณฑ์ซึ่งอยู่ภายในสวนแห่งนี้ก็ได้ พอใกล้เวลาห้าโมงก็มีเสียงประกาศว่าสวนใกล้จะปิดแล้ว พวกเราจึงเดินดูรอบๆสวนอีกนิดหน่อยแล้วเดินออกมา พอถึงเวลาห้าโมงทางสวนก็เปิดทำนองเพลงสามัคคีชุมนุม […]

DIARY Mint ::Day 10::

คลาสเรียนในวันนี้เรียนคันจิกับอาจารย์ผู้ชาย ชื่อจำไม่ได้55 รู้สึกเป็นคลาสที่มีสาระ แล้วก็ดูได้ความรู้เพิ่มเติมขึ้นมากๆ ชอบคลาสในวันนี้ คือไม่ได้เรียนแค่คันจิอย่างเดียว แต่ว่าเรียนความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับญี่ปุ่นด้วย จากนั้นก็เรียน 会話 ให้แบ่งคู่กันฝึกซ้อม ได้คู่กับเพื่อนชาวไต้หวัน แล้วก็เรียน 関西弁 ด้วย ชอบมากๆ เรียนประโยคที่ว่า あつはなついです。มาจาก 夏は暑いです。และก็ なんでやねん (อะไรของเอ็งฟะ?!) 555555 ชอบๆๆ พอเลิกเรียนก็ไปกินข้าวแถวสถานี Kamishinjo ไม่รู้จะกินร้านอะไรดี เพราะคิดว่ากินหมดละ แต่ไปเจอร้านราเมงที่แอบซ่อนอยู่ในสถานี อร่อยมากๆ ชอบมากๆ ร้านนี้ จากนั้นก็นั่งรถไฟไปเที่ยวที่ 万博公園 แต่ว่ามันปิดวันพุธแฮะ อุตส่าห์นั่งรถไฟมาตั้งเกือบชั่วโมง ทีนี้เลยไม่มีแพลนไปไหนเลย ตัดสินใจจะไปที่ 中崎町 แต่ว่าพอไปถึงแล้วหาไม่เจอ และมันก็ใกล้เวลาปิดแล้วด้วย เลยถอดใจไปที่อื่นดีกว่า ตอนนั้นรู้สึกว่าอยู่ใกล้อุเมดะพอดี เลยเดินไปอุเมดะ แวะไปดูของที่เพื่อนฝากซื้อกับเก็บไอเท็มที่ต้องซื้ออีกเล็กน้อย แล้วก็ไปขึ้น Umeda sky building เสียค่าเข้าไป 700 เยน วันนี้เป็นวันที่บรรยากาศไม่ค่อยดี เพราะมีเมฆมาก มันเลยดูวิวไม่ค่อยสวยเท่าที่ควร แต่ก็สวยสไตล์ตึก Observation […]

DIARY Khowphun ::Day 10::

วันนี้ตอนเช้าทุกอย่างเหมือนเดิม วันนี้ที่โรงเรียนสอนคันจิ ซึ่งปุ้นชอบเรียนคันจิมากๆ คาบเรียนวันนี้เลยรู้สึกสนุกมากๆ อาจารย์ให้ออกไปเขียนคันจิหน้าห้องด้วย รู้เลยว่าเขียนเส้นผิด แล้วอาจารย์ก็สอนคันจิแปลกๆให้หลายตัวเลย ได้ความรู้กลับมาเยอะมากๆ เป็นคาบเรียนที่สนุกที่สุดคาบนึงเลย พอเลิกเรียนปุ้นกับมิ้นก็ไปกินราเมงที่หน้าสถานีกัน เป็นรางเมงซุปมิโซะที่อร่อยมากๆ กินจนหมดชามเลย แล้วเราสองคนก็นั่งรถไฟไปยัง Banpaku Kinen Kouen กัน สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่จัดงาน เวิลด์เอ็กซ์โปเมื่อปีค.ศ.1970 มีสัญลักษณ์ที่เป็นจุดเด่นของที่นี่คือ Taiyo no Tou หรือหอคอยแห่งแสงอาทิตย์ซึ่งตั้งตระหง่านเด่นมาก แต่วันนี้พอไปถึงปรากฏว่าสวนสาธารณะปิดทุกวันพุธ เลยมาเสียเที่ยวเลย ปุ้นกับมิ้นเลยตกลงกันว่าจะมากันใหม่พรุ่งนี้ วันนี้เราเลยเปลี่ยนแผนเที่ยวกันไปเที่ยวกันแถวอุเมดะแทน พวกเราหน้าไปยังอุเมดะ แล้วเดินเท้ากันไปยังตึกUmeda Sky Building ซึ่งเป็นตึกสูงระฟ้า ที่ชั้นบนสุดมีจุดชมวิวรอบๆเมืองโอซาก้า พวกเราขึ้นไปถ่ายรูปวิวของเมืองโอซาก้ากัน แต่ปุ้นเดินได้แค่แป๊บเดียวก็ขอลงมารอข้างล่างเพราะปุ้นกลัวความสูง เลยปล่อยให้มิ้นถ่ายรูปอยู่คนเดียว555 แล้วเราก็แยกย้ายกันกลับบ้าน วันนี้กลับถึงบ้านตอนทุ่มกว่า วันนี้โฮสทำโอโคโนมิยากิให้กิน โฮสกับลูกสาวกินกันเรียบร้อยแล้วปุ้นเลยนั่งกินคนเดียว โฮสให้ปุ้นกินตั้งสองชิ้น ความจริงคือปุ้นอิ่มตั้งแต่ชิ้นแรกแล้ว แต่ก็ยัดเข้าไปจนหมด เพราะมันอร่อยๆจริงๆ พอกินเสร็จแล้ว ปุ้นก็ไปนั่งดูทีวีกับโฮสวันนี้มีรายการพิเศษ เป็นรายการเพลงประจำปีชื่อว่า FNS ปุ้นก็นั่งดูไปเรื่อยๆมีวงที่ปุ้นชอบมาออกด้วย ทั้งโฮสทั้งลูกสาวโฮสก็ดูจนไม่มีใครยอมไปอาบน้ำ สุดท้ายพอวงที่ปุ้นชอบร้องเสร็จแล้ว ปุ้นเลยขอไปอาบน้ำก่อนแล้วมานั่งดูต่อจนรายการจบตอนห้าทุ่ม แล้วก็ไปนอน

DIARY Mint ::Day 9::

วันนี้เรียนกับอาจารย์คนที่เคยลองไปเรียนดูวันแรก อาจารย์ออกแนวสไตล์ฮาและน่ารัก แต่ก็สอนดีเหมือนกัน วันนี้เรียนเรื่องเทศกาลของญี่ปุ่นในเดือนสิงหาคม ได้อธิบายเทศกาลสงกรานต์ด้วย ดูทุกคนจะตกใจกันมากที่สงกรานต์เราเอาน้ำมาสาดกัน แล้วสาดใครก็ได้ด้วย 555 จากนั้น วันนี้ข้าวปุ้นต้องไปเที่ยวกับโฮส เราเลยอยู่คนเดียว ตอนแรก ไม่รู้ว่าจะไปกินอะไรดีเลยเข้าแฟมิลี่มาร์ท กะจะเข้าไปกินมาม่ารสต้มยำกุ้ง แต่ว่ามันหมดแล้ว เลยกินเมลอนปังแทน แล้วนั่งคิดอะไรนิดหน่อยอยู่ที่แฟมิลี่มาร์ท ดีมากๆ เลยตรงที่มีที่ให้นั่ง จากนั้น ก็ไปกินทาโกะยากิแถวสถานี Kamishinjo แล้วก็ไม่รู้จะไปไหนดี เลยไปเที่ยว The National Art Museum of Osaka ฝั่ง Kita Nakanoshima แต่พอไปถึงเหลืออีกแค่ชั่วโมงเดียวที่จะสามารถดูศิลปะได้ เลยถ่ายรูปแค่ข้างหน้า แล้วก็ไปเดินเล่นแถว 中之島公園 แถวนี้เหมือนเป็นย่านคนทำงาน มีบริษัทนั่นนี่เต็มไปหมดเลย แล้วก็มีแต่คนทำงานด้วย สวน Nakanoshima กว้างขวางมาก น่าจะใช้เวลาเดินทั้งหมดประมาณ 3 ชั่วโมงได้ ในสวนประกอบไปด้วยหลายส่วนมาก แต่มีส่วนหนึ่งที่ชอบคือ バラ園 เป็นสวนกุหลาบฮะ แม้ว่าจะเป็นฤดูร้อน แต่ก็ยังมีบางส่วนที่ยังบานอยู่ ชอบดูดอกไม้มากๆ เลย มันเลยเพลินมากๆ […]

DIARY Khowphun ::Day 9::

วันนี้ตื่นหกโมงครึ่งเวลาเดิม ข้าวเช้าเป็นน้ำชากับขนมปังเหมือนเดิม ออกจากบ้านเจ็ดโมงครึ่งเวลาเดิม ไปถึงสถานีคามิชินโจตอนแปดโมงครึ่ง รอมิ้นมาแป๊บนึงแล้วก็ไปโรงเรียนด้วยกัน วันนี้ที่โรงเรียนเรียนเกี่ยวกับการท่องเที่ยว แล้วก็ถามประสบการณ์ของแต่ละคนว่าเคยไปเที่ยวที่ไหนกันมาบ้าง ก็คุยกันไปสนุกสนานเลยทีเดียว พอเลิกเรียนแล้วปุ้นก็แยกกับมิ้น เพราะวันนี้โฮสชวนไปเที่ยวที่อุเมดะ ปุ้นจึงรีบไปที่อุเมดะ พอถึงแล้วก็โทรหาโฮสว่าโฮสอยู่ที่ไหน แล้วรีบไปหาโฮส วันนี้โฮสมากับลูกสาวแค่สองคน ที่แรกที่ไปกันคือHep Five ไปถ่ายรูปปุริคุระกับโฮส จากนั้นก็ไปร้องคาราโอเกะกัน เพราะปุ้นบอกโฮสว่าอยากร้องเพลงมาก สรุปว่าโฮสซื้อชั่วโมงคาราโอเกะให้ปุ้นสามชั่วโมง โฮสกับชูกะจังลูกสาว ร้องเพลงกันอยู่แค่ห้าหกเพลง ส่วนที่เหลือเขายกให้ปุ้นร้องหมดเลย ปุ้นเลยจัดเต็มร้องจนคอแห้งเสียงแหบเลยทีเดียว ปุ้นก็ไม่รู้ว่าโฮสจะปวดหัวรึเปล่านะ เพราะเสียงปุ้นมันแย่มาก 55555 กว่าจะร้องเสร็จก็หกโมงเย็นแล้ว โฮสเลยพาไปหาข้าวเย็นทานกัน วันนี้เราไปกินราเมงกัน ปุ้นสั่งทันตัมเมง เพราะอยากกินอะไรเผ็ดๆ สรุปทุกคนสั่งทันตัมเมงกันหมด รสชาติอร่อยดี พอกินข้าวเสร็จโฮสก็ถามว่าอยากไปที่ไหนอีกไหม ปุ้นเลยบอกไปว่าอยากไปทาวเวอร์เรคคอร์ด โฮสเลยพาไป ปุ้นเลยได้ดีวีดีอาราชิที่เพิ่งออกวันนี้เลยมาหนึ่งแผ่นสมใจ แล้วเราสามคนก็กลับบ้านกัน พอถึงบ้านปุ้นเลยขอบคุณโฮสใหญ่เลย เพราะความจริงโฮสก็ยุ่งๆแต่ก็หาเวลาพาปุ้นไปเที่ยว ดีใจมากๆเลย  

DIARY Mint ::Day 8::

วันนี้โฮสทำสปาเกตตี้ให้กิน จริงๆ เหมือนโซบะผัดมากกว่าอะ แต่อร่อยมากๆ ชอบๆ อยากได้สูตร วันนี้ไปโรงเรียน เป็นวันแรกของ 夏休み ที่ทุกคนที่มาเรียนระยะยาวหยุดกลับบ้านกลับประเทศกันหมด ส่วนคนที่เรียนระยะสั้นก็ถูกยุบมาอยู่ห้องเดียวกันหมดเลย เลยได้เจอเพื่อนใหม่มากมาย แล้วคนไทยก็อยู่ที่นี่รวมพวกเราแล้วก็ 5 คนได้ อาจารย์ไม่รู้จะสอนอะไรเลยสอนเรื่องเทศกาลในประเทศญี่ปุ่น และก็เทศกาลเดือนกรกฎาคม น่าเบื่อมากๆ เพราะว่าเคยเรียนมาหมดแล้ว 555 พอเลิกเรียนแล้วก็ไม่รู้จะไปไหน เลยไปกินข้าวที่ Yoshinoya แถวสถานีอีกแล้ว อร่อยมั่กมั่กเลย อยากกลับไปกินอีกทุกๆ วันเลย ไม่เคยกินที่เมืองไทยเลย เพราะคิดว่าไม่อร่อย แต่ชอบมากเลย จากนั้นไปที่ Nisshin Noodle Museum นั่งรถไปไม่ไกลด้วย ช่วงนี้เป็นช่วงหน้าร้อน เด็กเล็กเด็กน้อยเลยปิดเทอมกันอยู่ พอไปถึงเจอขบวนเด็กมากันเป็นแก๊งพร้อมกับห้อยถุงใส่กระป๋องมาม่าทำเอง เหมือนที่นี่จะเล็กกว่า Museum ที่อยู่โยโกฮาม่านะ และก็พอเข้าไปก็เข้าไปทำกล่องมาม่าของตัวเอง คิดอะไรไม่ออก ทำมั่วๆ เลย555 แล้วดูเหมือนว่าเราจะเป็นกลุ่มสุดท้ายที่เอาไปใส่พวกเครื่องมาม่าด้วยแหละ จากนั้น Museum ก็ปิด ไปต่อกันที่น้ำตก Minoh มีคนแนะนำมาว่าห้ามพลาด ก็เลยจัดสักหน่อย นั่งรถไฟสุดสายไปจนถึง Minoh […]

DIARY Khowphun ::Day 8::

วันนี้ตื่นมาตอนหกโมงครึ่งเหมือนเดิม อาหารเช้าของบ้านนี้ คิดว่าคงเป็นน้ำชากับขนมปังทุกวันแน่ๆแล้ว แล้วก็ออกจากบ้านตอนเจ็ดโมงครึ่ง ไปถึงสถานีคามิชินโจตอนแปดโมงครึ่ง พอเจอมิ้นเราสองคนก็เดินไปโรงเรียนด้วยกันเหมือนเคย วันนี้เป็นวันแรกของการเรียนซัมเมอร์ของโรงเรียน ก็ได้เจอเด็กไทยคนอื่นๆด้วย วันนี้ก็เรียนแบบสบายๆไม่ยากมาก เรียนเดี่ยวกับเทศกาลของญี่ปุ่น ก็สนุกดี ได้ความรู้ใหม่ๆเพิ่มด้วย หลังเลิกเรียนพวกเราแวะไปกินข้าวหน้าเนื้อแถวๆหน้าสถานีคามิชินโจ แล้วค่อยเดินทางไปยังจุดหมายของวันนี้คือ นิชชินคัพนูดเดิ้ลแฟคตอรี่ ซึ่งอยู่ที่สถานีอิเคดะ จากสถานีคามิชินโจไปสถานีอิเคดะใช้เวลาไม่นานมากประมาณ20นาทีก็มาถึง จากสถานีเดินไปไม่ไกลมากก็จะถึงนิชชินคัพนู้ดเดิ้ลแฟคตอรี่ ซึ่งในนี้จะเป็นคล้ายๆพิพิธภัณฑ์ที่บอกประวัติความเป็นมาของนิชชินคัพนู้ดเดิ้ล แล้วก็ยังมีการสอนทำเส้นบะหมี่ มีการทำถ้วยคัพนูดเดิ้ลเป็นของตัวเองอีกด้วย ความจริงปุ้นเคยไปนิชชินคัพนู้ดเดิ้ลแฟคตอรี่ที่โยโกฮาม่ามาแล้ว บอกเลยว่าที่โอซาก้าเล็กกว่า แต่ดีกว่าอย่างนึงคือไม่เสียเงินค่าเข้า วันนี้เราตั้งใจมาทำคัพนู้ดเดิ้ลเป็นของตัวเองกัน โดยต้องเสียค่าถ้วยคนละ200เยน แล้วก็มานั่งวาดลายบนถ้วยกัน พอวาดเสร็จแล้วก็เดินไปที่เคาท์เตอร์จะมีคนเอาเส้นบะหมี่ใส่ ให้เราเลือกเครื่องปรุงว่าอยากได้รสไหน จะใส่เครื่องอะไรบ้าง สนุกมากๆเลย และวันนี้ก็มีคุณแม่พาลูกเล็กๆมาเยอะมากๆ พวกเราอยู่กันจนถึงเวลาปิดทำการจึงค่อยเดินออกมา แล้วไปยังเป้าหมายสุดท้ายของวันนี้คือสถานีมิโน นั่งรถไฟมาไม่นานก็ถึงสถานีมิโน ซึ่งให้อารมณ์เหมือนอยู่ต่างจังหวัดมากๆ สถานที่ที่เราจะไปกันคือน้ำตกมิโน ซึ่งจากสถานีเดินไปยังตัวน้ำตกนั้นเป็นระยะทางประมาณ2.5กิโลเมตร แถมทางขึ้นยังเป็นเนินอีกด้วย ตอนแรกจะถอดใจแล้ว แต่คิดว่าไหนๆก็มาแล้วก็ลองไปดูสักครั้ง พวกเราใช้เวลาเดินกันประมาณหนึ่งชั่วโมงก็ถึงตัวน้ำตก รู้สึกคุ้มค่ามากๆกับการเดิน2.5กิโลเพื่อมาดูน้ำตก เพราะน้ำตกที่นี่สวยจริงๆ แถมอากาศก็เย็นมากๆจนรู้สึกว่าอยากนั่งอยู่ตรงนี้ทั้งวันเลย พวกเราถ่ายรูปเก็บบรรยากาศยริเวณน้ำตกกันอยู่เกือบชั่วโมงก็กลับกันเพราะฟ้าเริ่มมืดแล้ว ขากลับก็เดินอีก2.5กิโล กลายเป็นว่าเดินไปกลับเป็นระยะทาง5กิโล ไม่รู้ว่าเดินไปได้ยังไง555 วันนี้กลับถึงบ้านตอนสองทุ่มกว่าๆ อาหารเย็นที่โฮสเตรียมให้วันนี้เป็นหมูทอดกับสลัดผัก อร่อยมากๆกินจนอิ่มเลย เพราะโฮสให้หมูทอดชิ้นใหญ่ๆมาตั้งสี่ชิ้น หลังจากกินข้าวเสร็จแล้วก็นั่งคุยกับโฮสนิดหน่อย แล้วก็ไปอาบน้ำ […]

DIARY Mint ::Day 7::

วันนี้นัดกับข้าวปุ้นไว้ตอนประมาณ 8 โมงที่อุเมดะ แต่ว่าตื่นสาย เนื่องจากเมื่อคืนอยู่คุยกับโฮสจนดึกดื่นและเมื่อวานไป 祭り มาอย่างเหนื่อยอะ ตื่นมาตอน 8 โมง รีบร้อนมาก จริงๆ ตื่นมาตอน 7 โมงแล้ว แต่รอให้โฮสเรียกก่อนค่อยลุก 5555 แต่ดันเผลอหลับไปซะงั้น วันนี้โฮสก็ไม่ได้ปลุกด้วยเพราะว่าเป็นวันพักผ่อน เค้าจะตื่นสายกันทั้งบ้าน ตื่นมาแล้วก็กินข้าวที่โฮสเตรียมไว้ให้ แล้วก็ออกจากบ้าน ไปเจอข้าวปุ้นที่สถานีอุเมดะแล้วก็ซื้อ Kansai thru pass 2 days เพราะว่าน่าจะคุ้มดี เสียไป 4000 เยนแหนะ ด้วยวันนี้ที่ตื่นสาย อะไรๆ ก็เลื่อนไปหมด จุดหมายแรกคือไปนารา นั่งรถไปประมาณ 1 ชั่วโมง พอขึ้นมาก็นั่งรถบัสเสีย 210 เยน ไปที่วัดโทไดจิ เจอกวางก่อนเลยอย่างแรก และเหม็นขี้กวางมาก เกือบเหยียบกับระเบิดไปหลายรอบ จากนั้น เข้าไปในวัด แล้วก็ซื้อแฟ้มนาราเป็นที่ระลึก เป็นแฟ้มที่เท่มากๆ 55 เดินกลับไปสถานี ไปกินราเมงแถวๆ สถานี แล้วก็นั่งรถไฟต่อไปที่เฮียวโกะ […]

DIARY Khowphun ::Day 7::

วันนี้ปุ้นกับมิ้นแพลนกันไว้ว่าจะไปนารากับโกเบ ตอนที่ปุ้นบอกโฮส โฮสก็ถามปุ้นว่ารู้รึเปล่าว่านาราอยู่ตรงไหนแล้วโกเบอยู่ตรงไหน555 คือถ้าเอาโอซาก้าเป็นจุดศูนย์กลาง โกเบจะอยู่ทางซ้ายของโอซาก้า ส่วนนาราอยู่ทางขวาของโอซาก้า พูดง่ายๆคืออยู่กันคนละทางเลย แต่ปุ้นก็รู้อยู่แล้ว และก็คุยกับมิ้นแล้วว่าที่นารากับโกเบที่เที่ยวมันไม่มากเท่าไหร่ น่าจะเก็บหมดภายในวันเดียว ตอนเช้าเรานัดเจอกันที่สถานีอุเมดะ แต่มิ้นยังไม่มาปุ้นเลยไปซื้อข้าวปั้น กับขนมมากินรอ สุดท้ายมิ้นส่งไลน์มาบอกว่าจะมาช้า ให้ปุ้นไปหาที่ซื้อตั๋วคันไซ ทรูพาสไว้ก่อนเลย ปุ้นเลยเดินไปหาที่ซื้อตั๋วซึ่งต้องไปซื้อที่สถานีเจอาร์โอซาก้า เดินจากสถานีอุเมดะไปประมาณ5นาทีก็มาถึง ปุ้นยืนรอมิ้นอยู่หน้าที่ขายตั๋วซักพักมิ้นก็มา แล้วเราก็ไปซื้อตั๋วกัน โดยตั๋วมีราคา4000เยน สามารถขึ้นรถไฟได้สองวัน วันละกี่รอบก็ได้ แถมมีบัตรส่วนลดค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยวแนบมาด้วย เป็นตั๋วที่คุ้มค่ามากๆ พอซื้อตั๋วเสร็จพวกเราก็ไปขึ้นรถไฟเพื่อมุ่งหน้าไปยังนารา โดยสถานที่ที่เราจะไปกันนั้นมีแค่ที่เดียวคือวัดโทไดจิ ซึ่งมีไดบุทสึองค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่ นอกจากนั้นไฮไลท์ของวัดนี้คือกวางที่มีอยู่เป็นร้อยๆตัวทั่วบริเวณหน้าวัด พวกเราอยู่ในวัดกันเป็นชั่วโมงก่อนจะออกมาหาข้าวกลางวันกินกัน มื้อเที่ยงวันนี้เป็นราเมงไก่สับ ใส่ไข่ต้ม อร่อยดี แล้วเราก็รีบขึ้นรถไฟไปยังสถานที่ต่อไปคือโกเบ แต่คุยกันไปคุยกันมากลายเป็นว่า มิ้นอยากไปดูปราสาทฮิเมจิ เราเลยนั่งรถไฟยาวๆไปลงที่ฮิเมจิ ใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่งนั่งรถไฟกันตูดแฉะ ในที่สุดพวกเรามาถึงปราสาทฮิเมจิกันตอนห้าโมงเย็น ซึ่งหมดเวลาเข้าชมแล้ว พวกเราเลยเข้าไปได้แค่สวนใหญ่ที่อยู่หน้าปราสาทเท่านั้น แต่ก็เห็นปราสาทฮิเมจิได้อย่างชัดเจน พวกเราก็เดินถ่ายรูปเล่นกันอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง ก็ออกมาเพื่อไปยังสถานที่สุดท้ายของวันนี้คือ โกเบ กว่าจะนั่งรถไฟมาถึงโกเบก็ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงได้ ฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว ที่ที่เราไปกันคือหอคอย Kobe Port ซึ่งตั้งอยู่บริเวณท่าเรือ บอกเลยว่าเที่ยวตอนกลางคืนนี่ดีมากๆ เพราะไม่มีแดด และไฟขอหอคอยที่เปิดตอนกลางคืนมันสวยมากๆ ฝั่งตรงข้ามกอคอยจะเป็นชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่ […]

DIARY Mint ::Day 6::

วันนี้ตื่นสายอีกละ เพราะคนที่บ้านนอนกันดึกมากๆ แล้วเราก็ไม่กล้านอนก่อนเค้า เกรงใจ เลยเจอกับข้าวปุ้นประมาณ 9 โมงได้ พอไปถึงอุเมดะก็ไปเดินเล่นที่คิโนะ เพราะอยากดูเครื่องเขียน จากนั้นนั่งรถไปที่ปราสาทโอซาก้า วันนี้ใช้ตั๋ว one day trip 600yen เพราะคิดว่าน่าจะคุ้มมากๆ วันนี้เป็นวันที่ร้อนมากๆ อีกวันหนึ่ง พอไปถึงปราสาทนี่หมดแรงเที่ยวเลย ขอเติมพลังด้วยราเมงร้านข้างหน้าปราสาทก่อน อยากกินปลาหมึกย่างมาก แต่แพง เลยอดไว้ก่อน กลับไปกินที่ไทย55 เข้าไปดูในปราสาทคนเยอะมากๆ เลย เพราะวันนี้เป็นวันเสาร์ แต่ไม่ได้เข้าไปข้างในเพราะว่าคนเยอะ เลยถ่ายรูปและนั่งพักอยู่ข้างนอกใต้ต้นไม้ ลมเย็นมากๆ เลย ก่อนกลับมีคนมาแสดงกายกรรมแถวรอบๆ ปราสาท ก็เลยยืนดูสักแป๊บ สงสาร เพราะร้อนมากๆ ไม่ค่อยมีใครมาดูเลย เสร็จแล้วไปต่อกันที่สวนสาธารณะ Tennoji นั่งรถไฟมามั่วๆ ก็ขึ้นมาเจอห้าง Abeno มีห้างเยอะแยะมากมายอยู่ติดกันไปหมดอีกแล้ว ก่อนไปสวน Tennoji แวะซื้อเมลอนกินที่ซุปเปอร์แล้วก็เดินไป ปรากฎว่าสวนปิดปรับปรุง55555 ขำมาก เลยเดินรอบนอกสวนที่ลมเย็นเหมือนกัน เดินไปรอบนึงก็ไปนั่งกินขนมข้างๆ สวนสัตว์ Tennoji แล้วก็เดินทะลุไปเจอ Shinsekai กับ […]

DIARY Khowphun ::Day 6::

วันนี้ปุ้นตื่นตอนหกโมงครึ่ง อาหารเช้าวันนี้ก็เป็นน้ำชากับขนมปังปิ้งแผ่นนึง วันนี้ปุ้นกับมิ้นนัดกันจะไปเที่ยวที่ปราสาทโอซาก้า ปุ้นเลยรีบออกจากบ้านไปถึงสถานีอุเมะเดะซึ่งเป็นสถานที่นัดพบเวลาประมาณ 8 โมงครึ่ง แต่มิ้นยังไม่มา ปุ้นเลยเดินเล่นอยู่แถวนั้นจนถึง 10 โมง มิ้นถึงจะมา 555 กว่าจะไปถึงปราสาทโอซาก้าก็เกือบเที่ยงแล้ว แน่นอนว่าแดดร้อนมากๆ มีร่มก็เอาไม่อยู่จริงๆ พอไปถึงปุ้นกับมิ้นก็เดินถ่ายรูปแถวๆนั้นไปพลางๆ พอเดินไปถึงก่อนทางเข้าปราสาท ปุ้นกับมิ้นก็ไปหาข้าวเที่ยงกินกัน มื้อนี้ปุ้นกินอุด้ง อร่อยดีราคาก็ไม่แพงมาก แต่น้ำที่นี่ขายแพงกว่าตามร้านสะดวกซื้อนิดหน่อย แต่ก็ต้องซื้อเพราะหิวน้ำ 555 ตรงข้ามทางเข้าปราสาทจะมีศาลเจ้าอยู่ หน้าศาลเจ้ามีรูปปั้นโทโยโทมิ ฮิเดโยชิซึ่งเป็นผู้สร้างปราสาทโอซาก้าตั้งอยู่ แล้วแวะเข้าไปถ่ายรูปด้วยซักหน่อย แล้วค่อยเดินไปที่ตัวปราสาท บริเวณตัวปราสาทมีคนเยอะมากเลย แต่ปุ้นก็ถ่ายรูปได้แป๊บเดียวก็ต้องหาที่หลบแดดเพราะมันร้อนมากๆจนจะเป็นลมแล้ว555 พอออกจากปราสาทโอซาก้ามา พวกเราก็ไปขึ้นรถไฟเพื่อไปยังสถานีเทนโนจิ เพื่อไปดูหอคอย Tsutenkaku ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญจุดหนึ่งของโอซาก้า ระหว่างทางเดินที่จะไปหอคอย เราต้องเดินผ่านสวนสาธารณะเทนโนจิก่อนพอออกมาถึงอีกฝั่งของสวนสาธารณะก็จะเจอสวนสัตว์เทนโนจิ ซึ่งปีนี้มีอายุครบ 100 ปีพอดี ถัดจากสวนสัตว์เราจะเจอย่านการค้าที่เรียกว่าชินเซไก หรือแปลเป็นภาษาไทยว่าโลกใหม่นั่นเอง ในย่านการค้านี้จะมีร้านค้าต่างๆมากมาย และมีจุดที่น่าสนใจคือหน้าร้านเกือบทุกร้านจะมีรูปปั้นเทพเจ้าบิลลิเก็นตั้งอยู่ เทพเจ้าบิลลิเก็นที่ว่านี้เป็นเทพเจ้าที่ให้โชคเรื่องเงิน แต่ปุ้นว่าหน้าตาท่านน่ากลัวไปหน่อยนะ555 พอเดินไปจนถึงใจกลางของย่านการค้าจะมีจุดที่สามารถมองเห็นคอคอย Tsutenkaku ได้อย่างชัดเจน แถมเป็นมุมที่คนนิยมถ่ายกันด้วย พวกรูปที่ลงอยู่ในหนังสือท่องเที่ยวก็น่าจะมาจากมุมนี้เหมือนกัน ตกเย็นปุ้นกับมิ้นก็เดินทางไปยังสถานีเท็นจินบาชิ เพื่อไปงานเท็นจินมัตสึริ ซึ่งเป็นงานเทศกาลประจำฤดูร้อนที่มีชื่อเสียงมากๆของโอซาก้า ชาวญี่ปุ่นจะแต่งชุดยูกาตะมาเดินงานนี้กัน […]

DIARY Mint ::Day 5::

วันนี้ตื่นตอน 7 โมงเหมือนปกติ อาหารวันนี้เป็น うなぎ ที่ไม่ชอบแต่ก็ต้องกิน เพราะไม่กล้าปฏิเสธและก็คงไม่มีอาหารอื่นกินแล้วด้วย และก็มีเหมือนยำถั่วงอก และเค้กที่อร่อยและน่ากินมากๆ ที่ลูกสาวซื้อมาให้เมื่อวาน วันนี้อากาศแจ่มใส หลังจากที่ฝนตกมาเมื่อวานทั้งวันเลย ไปโรงเรียน ได้เรียนกับ 柴田先生 อาจารย์ที่คอยดูแลเมื่อวันแรกที่ได้เจอ อาจารย์สอนดีมากๆ ไม่เบื่อเลย แล้วก็ได้สาระ อาจารย์เป็นคนใส่ใจเด็กทุกๆ คนมาก ได้คำศัพท์เยอะ แต่ว่าวันนี้โดนเรียกถามด้วย เมื่อวานขี้เกียจทำการบ้าน เลยไม่รู้คำตอบเลย เลยต้องตั้งใจเรียนมากเป็นพิเศษ เพราะต้องหาคำตอบให้ได้ เนื่องจากว่าพรุ่งนี้จะมีงาน Tenjin matsuri เพื่อนในคลาสก็เลยมาชวน แต่ว่าตอนแรกเข้าใจว่าโฮสจะพาไปเลยปฏิเสธไป แต่จริงๆ แล้วโฮสติดธุระก็เลยไม่ได้ไปกับเพื่อนๆ ในคลาส เลิกเรียนแล้วด้วยความที่ล้มละลาย เลยประหยัดเงินด้วยการกินมาม่าที่แฟมิลี่มาร์ท และก็อยากกินอาหารไทยด้วยแหละ เลยจัดมาม่ารสต้มยำกุ้ง จากนั้นซื้อชูครีมที่ Beard’s papa แถวสถานีกิน จากนั้นไปเดินที่ Shinsaibashi อีกรอบต่อจากเมื่อวาน เนื่องจากระยะทางมันยาวไกลเหลือเกิน และมีร้านให้แวะเยอะแยะมากมายอะ วันนี้เลยไปต่อจากจุดเดิม แล้วก็ล้มละลายมากมาย ช็อปปิ้งไปเยอะมาก เพลียตัวเองมาก ตอนแรกคิดว่าจะได้เจอกับห้าง SOKO แต่พอเดินจนสุดแล้วมันไม่มีอะไร […]

DIARY Khowphun ::Day 5::

วันนี้ตื่นมาตอนหกโมงครึ่งเหมือนเดิม อาหารเช้าวันนี้เป็นขนมปังแท่งยาวๆมีไส้ครีมอยู่ตรงกลาง กับโยเกิร์ตรสพีช แต่ปุ้นกินพีชไม่ได้เลยบอกปฏิเสธโฮสไป สรุปคือได้กินแค่ขนมปังชิ้นเดียว ด้วยความที่ไม่อิ่ม ตอนออกจากบ้านเลยเดินไปร้านสะดวกซื้อใกล้ๆบ้าน ไปซื้อชีสเค้กมาหนึ่งชิ้น ก่อนจะเดินไปรอรถเมล์ที่ป้ายรถเมล์ วันนี้เลิกเรียนเร็วกว่าปกติหนึ่งชั่วโมง เพราะวันนี้เป็นวันสุดท้ายของการเรียนของนักเรียนปกติ แต่ปุ้นกับมิ้นก็ยังคงต้องเรียนกันต่อไป เพราะถึงแม้นักเรียนส่วนใหญ่จะหยุดปิดเทอม แต่ก็ยังมีนักเรียนบางส่วนรวมถึงปุ้นกับมิ้นที่ต้องมาเรียนช่วงปิดภาคเรียนของโรงเรียน หรือจะเรียกง่ายๆว่ามาเรียนซัมเมอร์ก็ได้ วันนี้เลิกเรียนตอนเที่ยงตรง ปุ้นกับมิ้นก็ไปหาข้าวกินกัน ด้วยความที่มิ้นอยากกินมาม่ามาก มื้อกลางวันวันนี้เลยเป็นนิชชินคัพนู้ดเดิ้ลรสต้มยำกุ้ง พวกเรานั่งกินกันในแฟมมิลี่มาร์ท ซึ่งในแฟมมิลี่มาร์ทแห่งนี้สะดวกมากๆ มีทั้งห้องน้ำ มีโต๊ะให้นั่งกินข้าว แถมบริเวณโต๊ะมีปลั๊กให้เสียบเล่นโน้ตบุ๊คหรือชาร์จแบตมือถือได้ด้วย ส่วนรสชาติของนิชชินคัพนู้ดเดิ้ลรสต้มยำนั้น ถือว่าอร่อยดีกุ้งก็ตัวใหญ่ดี แต่ความเผ็ดสู้ของไทยไม่ได้ มื้อนี้เป็นมื้อที่ถูกที่สุดตั้งแต่มาญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ หลังจากนั้นปุ้นกับมิ้นก็ไปชินไซบาชิกันอีกรอบ เพื่อไปเดินในส่วนที่ยังไม่ได้ไปเดินเมื่อวานกัน ซึ่งก็ไม่ต่างจากเมื่อวานเท่าไหร่ คือมีแต่ร้านขายของเป็นทางยาว เดินกันอยู่ซักพักก็เดินจนสุดทาง พวกเราเลยตกลงกันว่าจะกลับมาที่อุเมดะ แล้วไปที่ Hep Five ซึ่งเป็นช็อปปิ้งมอลล์ที่ฮอตฮิตมากในหมู่วัยรุ่น ข้างในมีร้านเยอะมาก แถมมีสวนสนุกอยู่ข้างในด้วย แต่จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของที่นี่คือชิงช้าสวรรค์สีแดงที่ตั้งเด่นเป็นสง่า ปุ้นกับมิ้นจึงตกลงกันว่าจะขึ้นชิงช้าสวรรค์กัน ทั้งๆที่กลัวความสูงกันทั้งคู่ แต่ไหนๆมาแล้วขอลองสักครั้งแล้วกัน ค่าขึ้นชิงช้าสวรรค์ก็คนละห้าร้อยเยน ชิงช้าสวรรค์คือสูงมากๆ เห็นบริเวณรอบๆเมืองหมด เห็นภูเขาด้วยสวยมากๆเลยค่ะ พอเที่ยวกันเสร็จแล้วก็แยกย้ายกันกลับบ้านเหมือนอย่างเคย ข้าวเย็นวันนี้เป็นปลาแซลมอนอบ ผักต้ม ปลาหมึกย่าง อร่อยมากๆ โดยเฉพาะปลาแซลมอนอบพอจิ้มกับซอสแล้วฟินมากๆค่ะ วันนี้ลูกชายโฮสกลับมาบ้านเร็วกว่าปกติ […]

DIARY Mint ::Day 4::

ตอนนี้เริ่มชินกับเวลาตื่นแล้ว คือตื่น 7 โมง แล้วก็กินข้าว ออกจากบ้านตอน 8 โมง เริ่มเรียนตอน 9 โมง ชอบอาหารมื้อเช้าวันนี้มากๆ เพราะว่ามีเมลอน โฮสรู้ว่าชอบกินเมลอนมากๆ เลยซื้อมาให้เป็นลูกเลย แต่อากาศวันนี้ไม่ดีเท่าไหร่ ฝนตกแต่เช้าเลย ดูท่าว่าจะตกเปาะแปะทั้งวันด้วย และก็ติดใจบ๊วยรสวนิลลาเมื่อวานมากๆ เลยลองบ๊วยแบบอื่นกินดู เผื่อจะอร่อยเหมือนวันก่อนที่กินไป จากนั้นก็ไปโรงเรียน เรียนเรื่องเกี่ยวกับคำศัพท์ในการทำอาหาร สนุกมากๆ อาจารย์ผู้หญิงผมสั้น คนนี้ก็สอนดีมากๆ ใส่ใจทุกรายละเอียด แต่การบ้านเยอะมากๆ เลย อาหารมื้อกลางวัน กินที่ KFC แถวสถานี อยากลองดูว่า KFC ที่ญี่ปุ่นจะเป็นยังไง ไก่ที่นี่ไม่เรียกว่า KFC แต่เรียกว่า Kentucky Chicken แล้วก็ไม่กินซอสพริก ซอสมะเขือเทศ และก็เฟรนชฟรายกัน แต่กินไก่เปล่าๆ กับมันฝรั่งทอดที่แผ่นคล้ายเลย์แทน งงๆ เหมือนกัน ไก่ก็อร่อยดีนะแต่เค็มมากไปหน่อย อยากได้ซอส แผนการเที่ยวของวันนี้ เริ่มต้นที่นัมบะ นั่งรถไฟไปลงที่นัมบะ แล้วก็เดินยาวไปเรื่อยๆ ทาง […]