DIARY ดา ::Day 11:: Nikko

บันทึกประสบการณ์ของน้องดา ผู้ชนะจากการแข่งขันตอบปัญหาภาษาญี่ปุ่น J-Challenge#5 กับการเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น ที่โรงเรียน Yono Gakuin Japanese Language School จังหวัด ไซตามะ วันที่ 11 ที่ญี่ปุ่น..

วันเสาร์ที่  23 ตุลาคม 2553 Nikko

วันนี้ นัดช่อ 8.30 น. ที่โอมิยะ จากนั้นว่าจะไปนิคโก้ ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ 6 โมง เผื่อไม่ตื่น 55 แต่ก็ตื่นตอน 7 โมง (นอนต่อ) ลงไปข้างล่าง ยังไม่มีใครตื่นเลย (เค้าบอกไว้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วแหละ) ว่าถ้าตื่นมาหาอะไรกินเองได้เลย เพราะคนอื่นอาจยังไม่ตื่น แต่ก็ไม่รู้จะกินอะไร เลยไปนั่งกินขนม ที่เหลือ บนห้อง กะว่าจะไปหาไรกินต่อทีสถานี ออกจากบ้าน 7 โมงกว่า ถึงสถานีเกือบ 8 โมง สักพักก็เจอช่อ  (มาเร็วเหมือนกันนะเนี่ย 55) แล้วเราก็ไปหาไรกินตามที่ตั้งใจ เป็นร้านยืนกินที่สถานี เรากินMini karei 260 เยน ไม่แพงดีแต่มีแค่ข้าว ราดแกงกะหรี่จริง ๆ อ่ะ ไม่ค่อยมีเนื้อๆ แต่ก็อิ่มนะ สำหรับมื้อเช้า

จากนั้น ประมาณ 8.30 น. ก็นั่งรถไปนิคโก้ โดยต้องนั่งรถไฟ JR สายสีส้ม utsumomiya line  เป็นเวลาชั่วโมงกว่าๆ นั่งเมื่อยมากๆ แล้วก็ไปเปลี่ยนรถไฟที่สถานีutsumomiya       เพื่อไปนั่งรถไฟไป nikko แค่รถก็น่านั่งแล้ว แต่กว่าจะออกได้เนี่ย รอเวลานานมาก แล้วก็คงรอคนเต็มด้วยแหละ ประตูรถไฟสายนิคโก้นี่ มีทั้งอัตโนมัติ และอัตโนมือ 55 คือ พอถึงสถานีเค้าจะปลดล็อคให้ ส่วนเราก็ต้องเลื่อนเปิดเอง แปลกดีอ่ะ ตอนแรกนึกว่าประตูปิดไม่สนิท กะจะเดินไปบอกคนขับแล้วแหละ 55 สายนี้นั่งประมาณ 5 สถานี แต่นานมาก แต่ละสถานีมันห่างกันไง พอไปถึงสถานีนิคโก้ ก็ยืนงงว่า แล้วจะให้เราไปทางซ้ายหรือขวาอ่ะ จะขึ้นรถบัสก็เห็นคนที่ต่อแถวอยู่ ถือตั๋วแปลกๆ ไม่รู้ไปซื้อที่ไหน ก็เลยเข้าไปในสถานีใหม่ ถามตรง Information เค้าก็บอกว่านี่ก็ใกล้เที่ยงแล้ว แนะนำให้เราเดินไปดีกว่า เพราะว่า ตามข้างทางจะมีร้านขายอาหารเยอะ  จากนั้นก็แนะนำเส้นทางท่องเที่ยวคร่าว ๆ

 
เราก็เดินไปกันเรื่อยๆ ประมาณ 2 กม. แล้วก็ไปนั่งกินTanuki soba  ในร้านโบราณๆ ร้านหนึ่ง   รอนาน เพราะคนเยอะ รสชาติ พอใช้ได้ แต่พริกไม่เผ็ดเลย ใส่กี่รอบ รสชาติก็จืดๆ เหมือนเดิมอ่ะ  กินเสร็จ จ่ายเงิน 787 เยน แล้วก็เดินต่อ มีพลังแล้ว …..55

สักพักก็เจอ shinkyo bridge สะพานสีแดงสด ข้ามแม่น้ำที่ไหลมาจากภูเขา สวยมากอ่ะ น้ำไหลแรงมากด้วย วิวสวย มองไปก็เห็นใบไม้เปลี่ยนสีด้วยนิดหน่อย บนภูเขา แต่เราไม่ได้ขึ้นสะพานนะ เพราะมันต้องเสียตังค์ ขึ้นไปก็คงไม่ได้มุมถ่ายรูปอยู่ดีอ่ะ เปลืองเปล่าๆ  จากนั้นก็ขึ้นเขาไปดูมรดกโลก 55 ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีบางต้น เดินไปก็เจอศาลเจ้าเยอะอ่ะ(แต่ส่วนใหญ่ปิดซ่อม) ไหว้ไปตลอดทาง จากนั้นก็เดินไปถึงที่…..ของโทกุกาวะ อิเอยาสุ ซึ่ง…….ต้องเสียค่าเข้าชมม.ปลาย –ผู้ใหญ่ 1300 เยน แพงอ่ะ กลัวไม่มีไรให้ดูคุ้มพอกับที่เสียเงินไป แต่พอเข้าไปก็รู้สึกคุ้มนะ บริเวณกว้างมาก บริเวณกว้างมาก แทบจะเดินขึ้นเขาทั้งลูกเลย ข้างในก็มีตำหนักเยอะแยะไปหมด แต่ตำหนักสำคัญ ดันปิดซ่อมซะงั้น พอเดินค่อนข้างทั่ว ออกมาไปเจอตำหนักของ โทกุกาวะ อิเอมิทสึ เสียค่าเข้าอีก 550 เยน ตำหนักของ อิเอมิทสึ มีบริเวณเล็กกว่าเล็กน้อย แต่ทุกอย่างดูใหม่กว่า บรรยากาศดี แต่บางจุดไม่เปิดให้เข้าชม  ไม่รู้ทำไม อุตส่าห์เสียเงินมาแล้ว ไม่ได้ดู

จากนั้นก็ออกมาเพราะ 4 โมงกว่าแล้ว ไม่อยากไปไหนต่อ เพราะเดี๋ยวกลับบ้านเย็นเกิน เดินลงเขามา ได้ขึ้นรถไฟ สายนิคโก้ เที่ยว 5 โมง 7 นาที  ถึง Utsumomiya 6 โมง ขึ้นรถไฟเที่ยว 6.14 น. กลับบ้าน ถึงบ้านประมาณ ทุ่มครึ่ง กินข้าวเย็น เริ่มเอาอาหารเก่ามากินแล้วค่ะ 55 มีแกงกะหรี่ ผัดผัก ข้าวผัดเก่าๆ ของใหม่ คือ สเต็กหมูแค่นั้น 55 แต่ก็ยังอร่อยอยู่ (ลืมถ่ายรูปอ่ะนะ) กินเกือบเสร็จ Taka ก็มา อยู่กันครบเลยทั้งบ้าน  Okasan  เลยชวนให้มาถ่ายรูปรวม แล้วเดี๋ยวเค้าจะลงเฟสบุ๊คให้ 55 ตอนจะถ่ายรูป Taka ยังกินไม่เสร็จเลยโดนลากไปถ่ายรูปก่อน 55 จากนี้ก็รีบอาบน้ำ,ลงรูป นอน 4ทุ่มกว่า พรุ่งนี้ต้องตื่นตี 4.30 ไปเจอTani sensei กับช่อตี 5.40 วันนี้ก็ต้อง Oyasuminasai แล้วละ Bye mata ashita

 

บันทึกประสบการณ์วันที่ 12 ของน้องดา >>

Link ที่เกี่ยวข้อง >>
Diary บันทึกประสบการณ์ ผู้ชนะการแข่งขันภาษาญี่ปุ่น JChallenge#4
Diary บันทึกประสบการณ์ ผู้ชนะการแข่งขันภาษาญี่ปุ่น JChallenge#3

Leave a Reply