12 D@Ys in JAP@N :: ตอนที่ 4 บ๊ายบายไซตามะ & グリーン車

หลังจากที่เราลั้ลลาตระเวนย่ำ เอ๊ย!! เยี่ยมหอพักนักเรียนของ Yono – Gakuin Japanese Language School กันไปหลายที่แล้ว ทานิเซนเซจะพาเราไปเจอกับนักเรียนไทยคนนึงค่ะ..

35

พอออกจากหอพักนักเรียนหญิงเมื่อกี้ เราก็เดินไปเอารถที่จอดไว้ก่อนจ้า~~ ไปดูที่จอดรถของญี่ปุ่นกันนะคะ

                                                                     1
                                                         ราคาค่าจอดรถ เวลาทั่วๆไป คิด 20 นาที 100 เยนค่ะ

                                                                    2
                                                            ระบบบริการตัวเอง ไม่ต้องใช้แรงงานคนเลยค่ะ

                                                           3
                                                                                 รถเซนเซอยู่โน่นนนน

ที่จอดรถของญี่ปุ่นกะทัดรัดมากค่ะ สมกับเป็นประเทศที่ใช้พื้นที่ทุกส่วนอย่างคุ้มค่าจริงๆ บางที่ที่เก๋เห็นมา คือจอดได้ไม่เกิน 3 คันแน่ๆ แต่เค้าก็ทำเป็นที่จอดรถได้ค่ะ แถมแต่ละที่ไม่มีการใช้แรงงานคนเลยค่ะ ใช้เป็นเครื่องอัตโนมัติเนี่ยแหละค่ะ แถมพอเห็นราคาที่จอดรถก็แอบสะดุ้งนิดนึง มิน่าคนญี่ปุ่นที่อยู่ในเมือง จึงเลือกใช้ระบบขนส่งมวลชนมากกว่าที่จะใช้รถยนต์ส่วนตัวค่ะ

               4         5

               6         7

               8         9

                               10          11

               12          13
ระหว่างจะเดินทางไปหานักเรียน เราก็ขับรถชมวิวไปพลางค่ะ (จริงๆเรียกว่าขับรถชมวิวก็ไม่ถูก เพราะมันเป็นทางผ่านจ้า~~)

เราก็มาพบ “คุณพี” นักเรียนเจเอ็ดดูเคชั่นที่เดินทางมาเรียนที่ Yono ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2008 ค่ะ โดยตอนที่คุณพีมาเรียนตอนแรกๆยังไม่ค่อยมีพื้นฐานภาษาญี่ปุ่นเลยค่ะ ผ่านไป 6 เดือนสามารถสอบระดับ 3 ได้แล้วนะคะ คุณพีพักกับรูมเมทชาวต่างชาติที่เรียนด้วยกันค่ะ เราพูดคุยถามสารทุกข์สุกดิบกับคุณพีอยู่พักนึง แล้วก็ต้องขอตัวล่ะค่ะ เพราะเรายังมีโปรแกรมไปเยี่ยมที่พักนักเรียนอีกที่นึงค่ะ เลยนำภาพคุณพีมาฝาก เผื่อเพื่อนๆที่เมืองไทยจะคิดถึงนะคะ

                                                          14
                                                                                      คุณพีกับรูมเมท

                                                          15
                                                            (จากซ้ายไปขวา) พี่จูน, คุณพี และทานิเซนเซ

              16        17
                                           คุณพีและเพื่อนชาวจีน ระหว่างทบทวนบทเรียนกันทุกเย็นค่ะ

หลังจากคุยกับคุณพีเสร็จแล้ว เราก็มุ่งหน้าไปเยี่ยม MoMo House กันค่ะ ซึ่ง MoMo House ที่ว่านี้ ก็คือที่พักสำหรับนักเรียน Yono อีกประเภทค่ะ เป็นที่พักแบบที่เราเรียกว่า แชร์เฮ้าส์ ที่อยู่รวมกันประมาณ 3 – 4 คน และจะมีคนดูแลบ้านอยู่ด้วยค่ะ

MoMo House เป็นบ้านขนาดกะทัดรัด คล้ายทาวน์เฮ้าส์แบบมีพื้นที่บริเวณบ้านนิดหน่อยค่ะ มีทั้งหมด 2 ชั้น ด้านหลังบ้านเป็นสวนแบบญี่ปุ่นขนาดเล็กๆ ซึ่งสามารถมองออกมาจากข้างในบ้านได้ ชั้นบนมี 2 ห้องนอนสำหรับนักเรียน ชั้นล่างก็มีห้องนอนสำหรับนักเรียนและห้องนอนของคนดูแลบ้าน ห้องส่วนกลางต่างๆค่ะ อ่อ.. ที่นี่ เราสามารถใช้อินเตอร์เน็ตได้นะคะ เพียงแต่ต้องนำคอมพิวเตอร์มาเองจ้า~~

                18        19

                20        21 

                                                                  22      
                                                       23
                   ถ่ายรูปด้วยกันกับน้องๆที่เพิ่งเดินทางมาพร้อมกับเราค่ะ คนเสื้อแดงอุ้มน้องหมาเป็นผู้ดูแลบ้านค่ะ

ในที่สุด เก๋ก็พาทุกคนเยี่ยมชม Yono – Gakuin Japanese Language School และเมืองไซตามะกันไปเรียบร้อยแล้ว วันนั้นว่าเหนื่อยแล้ว เพราะคืนก่อนหน้าก็นอนไปนิดเดียวบนเครื่องบิน แต่เอาเข้าจริงๆ ตอนพิมพ์เล่าให้ชาวบ้านอ่านนี่.. เหนื่อยกว่าแฮะ ^_^!!

จากนี้ไปเราก็จะเดินทางกลับที่พักของเราแล้วล่ะค่ะ โดยตลอดเวลาที่เราอยู่ที่โตเกียว เก๋และพี่จูนจะพักกันที่บ้านของ Hasegawa san (ผู้บริหารของเจเอ็ดฯนี่แหละค่ะ) ซึ่งอยู่ที่ Fujisawa  『藤沢』ค่ะ หลายคนอาจจะนึกไม่ออกว่า Fujisawa อยู่ตรงไหน (ตอนแรกเก๋ก็ไม่รู้เหมือนกัน อิอิ) Fujisawa อยู่ค่อนมาทางใต้ของโตเกียวค่ะ เลย Yokohama ไปนิดหน่อย การเดินทางเข้าโตเกียวก็สะดวกสบาย ถ้าโดยรถไฟประมาณเกือบๆชั่วโมงเราก็จะถึงใจกลางโตเกียวได้แล้วล่ะค่ะ

ทานิเซนเซจะไปส่งพวกเราขึ้นรถไฟกันค่ะ ไม่ใช่แค่นักเรียนเท่านั้นที่เซนเซดูแลเป็นอย่างดี กับพวกเราเซนเซก็ใจดีมากๆเลยค่ะ ทั้งช่วยโทรเช็คเส้นทางรถไฟที่สะดวกเเละเร็ว ที่จะทำให้พวกเราถึงที่พักเร็วๆอีกด้วย สรุปแล้ว เราต้องไปขึ้นรถไฟที่สถานี Saitama Shin Tou Shin เพื่อไปเปลี่ยนรถที่สถานี Omiya ซึ่งเป็นสถานีติดกัน และขึ้นรถไฟที่ตรงไป Fujisawa โดยไม่ต้องเปลี่ยนขบวน พวกเราจะได้หลับยาววววววไงละคะ..

                24       25

               26        27

ตอนนี้ก็ประมาณเกือบ 6 โมงเย็นแล้ว คนทำงานทั่วไปก็ได้เวลาเลิกงานแล้วล่ะค่ะ เซนเซกลัวพวกเราจะต้องยืนเบียดยาวไปถึงฟูจิซาว่า (ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.แน่ะ) เลยถามว่า หรือเราจะขึ้นรถแบบ グリーン車 (gu – rii – n – sha) หรือ Green Sha ซึ่งคำว่า Sha เนี่ย ก็แปลว่า Car ค่ะ จริงๆแล้ว Green Sha เป็นโบกี้พิเศษที่อยู่ในรถไฟทั่วไปนี่แหละค่ะ เราจะต้องจ่ายเงินเพิ่ม ( แหะๆ แต่จำไม่ได้แล้วไง ว่าจ่ายเพิ่มไปเท่าไหร่ 😛 ) เพื่อที่เราจะมีที่นั่งแน่นอน ไม่ต้องไปเบียดกับใครจ้า

                              28          29
                                   ก่อนอื่นมาเติมเงินในบัตร Suica Card กันก่อน (คล้ายกับตั๋วเดือนของ BTS ค่ะ)

                               30         31
                               ต้องจองที่นั่ง Green Sha ก่อนขึ้นรถนะคะ โดยตู้จองที่เห็นจะตั้งอยู่ข้างๆชานชาลาค่ะ

                                32         33
      สังเกตไฟสีแดงและสีเขียวบนเบาะที่นั่ง เหนือศรีษะเรานะคะ สีแดงคือที่ที่มีคนนั่งแล้ว สีเขียวคือที่นั่งที่ยังว่างค่ะ

                                                          34
เพราะฉะนั้น ถ้าเราขึ้นมานั่งประจำที่แล้ว เราต้องเอาบัตร Suica ไปแปะตรงไฟเขียวๆด้วยนะคะ รถไฟก็จะรู้ว่ามีที่นั่ง ว่างๆเหลืออยู่เท่าไรค่ะ

              35        36
                                                              ทานิเซนเซคอยส่งเราจนรถวิ่งไปลับตาค่ะ

วันแรกในญี่ปุ่นของเก๋กับภารกิจตะลุยไซตามะ (พูดซะเว่อร์) เสร็จเรียบร้อยแล้วล่ะค่ะ ตอนนี้เรากำลังจะเดินทางไปหา お母さん (โอก้าซัง = คุณแม่) ที่ Fujisawa กันค่ะ ตอนแรกตั้งใจว่าจะงีบเอาแรงก่อน ที่ไหนได้.. ดันนอนไม่หลับซะอย่างงั้น T_T อากาศในรถไฟก็กำลังดี ไม่หนาวไม่ร้อน แต่พอลองเอามือแนบกระจก สะดุ้งเลยค่ะ ข้างนอกหนาวแน่เลยยยยยย

เมื่อไรจะถึง Fujisawaaaaa~~